บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2019

แผนกาเล่น4-4-2

รูปภาพ
แผนการเล่น4-2-2 การวางตำแหน่งหรือการใช้แผนนี้เป็นการวางตำแหน่งที่ดังเดิมที่สุดในวงการฟุตบอลเพราะเป็นอีกแผนที่มีความสมดุลมาก ไม่ว่าจะเป็นเกมรับ หรือเกมรุกที่มีปีกซ้ายขาวคอยเติมเกมและมีกองหน้าถึง2คนที่คอยจบสกอร์ โดยแผนนี้ถูกเป็นที่พูดถึงในปี2016 ในปีที่ทีมอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ใช้แผนนี้ในการเล่นและทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ในปีนั้น by  https://sport.mthai.com/football/251663.html

แผนบอลส่วนใหญ่

รูปภาพ
แผนการเล่น 4-5-1   เป็นแผนการเล่นที่สามารถควบคุมเกมแดนกลางได้เพราะมาตัวคอยคุมจังหวะแดนกลางถึง5คน และแถมยังมีตัวรับอีก1คน     แผนการเล่น 4-3-3 เป็นแผนการเล่นที่มีการรุกที่ดุดัน เพราะมีคนคอยเติมรุกตลอดเวลา ในขณะที่แดนกลางก็มีตัวคอยสร้างสรรค์เกมอยู่ด้านหลัง       แผนการเล่น 4-2-3-1 เป็นแผนยอดนิยมมากที่สุดเพราะเป็นแผนที่มีความสมดุลทางด้านเกมรับและรุก แต่ข้อเสียคือการเล่นอาจจะโดนฝ่ายตรงข้ามแก้เกมได้ง่าย by  https://sport.mthai.com/football/251663.html

ความสามารถที่ควรมีของแต่ละตำแหน่ง

รูปภาพ
1.ผู้รักษาประตู  (goalkeeper) ตัวสูงมีวิสัยทัศน์ที่ดี มีความเร็ว กล้าตัดสินใจ  2.กองหลัง  (defender) ตัวสูง ไม่ช้าจนเกินไป กล้าที่จะคิดและทำในการเข้าบอล 3. ฟุลแบ็ก แบ็กซ้าย   (left-back) และ   แบ็กขวา   (right-back) หรือที่ปกติจะเรียก   ฟุลแบ็ก   (full-back) มีความเร็วขยันเติมเกมและลงมาช่วยเกมรับ ต้องอดทนในการวิ่งขึ้นและลง 4.กองกลาง   (midfielder) มีทักษะการจ่ายบอลที่ดี มีสายตาที่เฉียบแหลม มีความแข็งแกร่ง มีทักษะการเติมเกมรุกและเกมรับ 5.กองกลางตัวกลาง   (centre midfielder) มีความขยันในการเดินเกมต่างๆ มีความยึดหยุ่นในการคุมจังหวะเกม 6.กองหน้า  (forward, striker) มีความครบเครื่องทางด้านร่างกาย มีความกล้าที่จะทำและตัดสินใจ คิดเร็วทำเร็ว มีการจบสกอร์ที่เฉียบขาด by https://kelamun.com/top-10-footballer-striker-2018/

หน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง

รูปภาพ
หน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง 1.ผู้รักษาประตู  (goalkeeper) เป็นตำแหน่งที่ป้องกันมากที่สุดในบรรดาหลายตำแหน่ง หน้าที่หลักก็คือการไม่ให้อีกทีมได้แต้มโดยการรับ การปัด หรือการชกบอลจากการยิง  2.กองหลัง  (defender) จะอยู่ด้านหลังของกองกลาง และหน้าที่หลักของพวกเขาก็คือสนับสนุนทีมและป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายทำประตูได้ ปกติพวกเขาจะอยู่เพียงครึ่งสนามในฝั่งพวกเขาเพื่อป้องกัน 3. ฟุลแบ็ก แบ็กซ้าย   (left-back) และ   แบ็กขวา   (right-back) หรือที่ปกติจะเรียก   ฟุลแบ็ก   (full-back) จะประจำตำแหน่งที่ด้านข้างของกองหลังตัวกลาง เพื่อป้องกันการบุกจากริมเส้น และบ่อยครั้งที่ต้องไปหยุดการบุกของตำแหน่งปีกฝ่ายตรงข้ามที่พยายามผ่าน หรือโยนบอลเข้าเขตโทษ 4.กองกลาง   (midfielder) เดิมทีเรียกว่าฮาล์ฟแบ็ก ตำแหน่งนี้จะเล่นอยู่ระหว่างศูนย์หน้าและกองหลัง หน้าที่หลักของตำแหน่งนี้คือครองบอล และรับบอลจากกองหลัง แล้วขึ้นไปส่งให้กองหน้า พร้อมกับไล่บอลจากผู้เล่นอีกฝ่าย ส่วนใหญ่ในทีมต้องมีกองกลางตัวกลาง (central midfielder) อย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อหยุดเกมบุกของอีกฝ่าย นอกจากนั้นก...

แผนการเล่นฟุตบอล

รูปภาพ
แผนการเล่นฟุตบอล ในกีฬาฟุตบอล จะบ่งบอกถึงการที่ผู้เล่นในทีมจะยืนตำแหน่งใดในสนาม ซึ่งฟุตบอลเป็นเกมที่มีความยืดหยุ่นและเร็ว (ยกเว้น ผู้รักษาประตู) ผู้เล่นอาจจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ในระหว่างการแข่งขัน เช่นในรักบี้ ผู้เล่นจะไม่ยืนเป็นแถวในตำแหน่งเดิมตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การกำหนดตำแหน่งมีเพื่ออธิบายถึงผู้เล่นในตำแหน่งนั้นว่าจะเน้นการรุกหรือรับ หรือการเล่นในด้านใดด้านหนึ่งของสนาม          By  https://sites.google.com/a/triamudomsouth.ac.th/khn-rak-football/kar-yun-tahaenng-ni-kila-futbxl
รูปภาพ
ตำแหน่งของแต่ละจุด   By:  https://sport.mthai.com/football/251663.html 1.GK(GOALKEEPER)  เป็นตำแหน่งของผู้รักษาประตู  2.CB(CENTER BACK) เป็นตำแหน่งของกองหลังตัวกลาง 3.RB(RIGHT BACK) เป็นตำแหน่งของกองหลังฝั่งขวา 4.LB(LEFT BACK) เป็นตำแหน่งของกองหลังฝั่งซ้าย 5.RWB(RIGHT WING BACK) เป็นตำแหน่งของกองหลังกึ่งปีกฝั่งขวา 6.LWB(LEFT WING BACK) เป็นตำแหน่งของกองหลังกึ่งปีกฝั่งซ้าย 7.CDM(CENTER DEFEND MIDFIELDER) เป็นตำแหน่งของกองกลางตัวรับ 8.CM(CENTER MIDFIELDER) เป็นตำแหน่งของกองกลาง 9.CAM(CENTER ATTACK MIDFIELDER) เป็นตำแหน่งของกองกลางตัวรุก 10.RM(RIGHT MIDFIELDER) เป็นตำแหน่งของกองกลางฝั่งขวา 11.LM(LEFT MIDFIELDER) เป็นตำแหน่งของกองกลางฝั่งซ้าย 12.RW(RIGHT WING) เป็นตำแหน่งของตัวรุกฝั่งขวา 13.LW(LEFT WING) เป็นตำแหน่งของตัวรุกฝั่งซ้าย 14.ST(STRIKER) เป็นตำแหน่งของตัวรุกศูนย์หน้าตัวเป้า